การบันทึกครั้งที่ 3
วันจันทร์ ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2559
เวลา 14.30 - 17.30 น.
เนื้อหาการเรียน
- อาจารย์มีเกมส่งเสริมเรื่องการสื่อสารมาให้นักศึกษาเล่นร่วมกัน ดังนี้
1.เกมส่งเสริมเรื่องการสื่อสาร"เกมสื่อความหมาย" ตัวแทนนักศึกษา 5 คนออกไปแสดงท่าทาง
ส่งต่อกันเมื่อส่งครบแล้วให้นักศึกษาคนสุดท้ายทายว่าคือท่าอะไร
ท่าทางกิจวัตรประจำวันในตอนเช้า
ท่าทางการทำส้มตำ
2.เกมส่งเสริมเรื่องการสื่อสาร"เกมพรายกระซิบ"ตัวแทนนักศึกษา 5 คนออกไปส่งคำพูดปริศนา
ส่งต่อกันเมื่อส่งครบแล้วให้นักศึกษาคนสุดท้ายพูดประโยคนั้นออกมาให้เพื่อนๆฟัง
3.เกมส่งเสริมเรื่องการสื่อสาร"เกมทายคำ" ตัวแทนนักศึกษา 3 คน ออกไปใบ้และทายคำ
ตามคำใบ้ที่ได้รับมา
4.เกมส่งเสริมเรื่องการสื่อสาร"เกมใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร กับใคร"
โดยมีตัวแทนนักศึกษา 6 คนออกไปเขียนแต่ละหัวข้อ หัวข้อละ 5 ครั้ง จากนั้นอ่านของคนแรก
ไปจนถึงคนสุดท้ายจะได้เหตุการณ์ทั้งหมด 5 ประโยค
- เข้าสู่บทเรียนเรื่อง "การสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย"
ความหมายของการสื่อสาร
การสื่อสาร (Communication) คือ กระบวน
การส่งข่าวสารข้อมูลจากผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสารมีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาโดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งต้องการ
สื่อ ใช้วิธีพูด-เขียน
หรือการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น ใช้รูปภาพ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ
โดยวิธีการติดต่อนั้นต้องใช้ตัวกลางต่างๆ เช่น คลื่นเสียง ตัวหนังสือ
แผ่นกระดาษที่มีตัวหนังสือเขียน
คลื่นวิทยุโทรทัศน์ ตัวกลางเหล่านี้เรียกว่า
สื่อ โดยการสื่อสารนั้นสามารถใช้สื่อหลายๆอย่างได้พร้อมๆกัน เช่น การเรียน การสอน
ต้องใช้ทั้งหนังสือ กระดาน ภาพ
สาร คือ เรื่องราวที่รับรู้ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นข้อเท็จจริง ข้อแนะนำ การล้อเลียน ความปรารถนาดี ความห่วงใย
มนุษย์จะแสดงออกมาให้เป็นที่รับรู้ได้ การสื่อสารจะเกิดขึ้นตามกาลเทศะ และสภาพแวดล้อมต่างๆในสังคม
พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง
ปัจจัยที่มีผลต่อการแสดงออกทางพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง
1.ความพร้อม คือสภาพความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจที่จะเรียนรู้ โดยเตรียมความพร้อมในเรื่องดังนี้
พื้นฐานประสบการณ์เดิม สร้างความสนใจเห็นเห็นถึงความสำคัญของความรู้
ส่งเสริมความเชื่อมั่นในการเรียนรู้
2.
ความต้องการ
คือความต้องการให้ชีวิตดำเนินไปอย่างมีความสุข เช่น
ต้องการให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรง มีการศึกษาที่ดี
3. อารมณ์และการปรับตัว คือ แนวโน้มที่จะปฏิบัติต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มี 2 ประเภทคือ อารมณ์ทางบวก เช่น ดีใจ พอใจ ฯลฯ อารมณ์ทางลบ
เช่น โกรธ เสียใจ หงุดหงิด ซึ่งอารมณ์ทั้ง
2 นี้มีผลต่อการเรียนรู้
ดังนั้นควรปรับอารมณ์ให้เกิดความสมดุลพร้อมที่จะเรียนรู้
4. การจูงใจ หมายถึง
การกระตุ้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ เช่น
ต้องการรู้เพื่อแก้ปัญหาลูกหลาน ต้องการรู้เพื่อพัฒนาลูก
ต้องการรู้เพื่อให้ลูกเป็นคนดี
5. การเสริมแรง คือ
การสร้างความพึงพอใจหลังการเรียนรู้ให้แก่ผู้ปกครอง เช่น คำชมเชย รางวัล ฯลฯ
6. ทัศนคติและความสนใจ คือ
การที่บุคคลมีการตอบสนองและแสดงความรู้สึกต่อสิ่งเร้าต่างๆ เช่น
7. ความถนัด คือ ความสามารถของบุคคลในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป การสื่อสารที่ดีและมีประสิทธิภาพนับเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้งานการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จ
ผู้ที่เป็นครูจะต้องทำความเข้าใจเรื่องการสื่อสารให้กระจ่างชัดเจน
ประกอบกับการศึกษาธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครอง พฤติกรรมการเรียนรู้
เพื่อที่จะได้ทำการให้ความรู้ให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองได้ดีมีประสิทธิภาพสูงสุด
เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความศรัทธา
เชื่อมั่นและมีความอบอุ่นว่าสถานศึกษาจะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นก็ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง
บ้านโรงเรียน ชุมชนและสังคมเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเด็กร่วมกัน
คำถามท้ายบท
1.จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
ตอบ - การสื่อสาร คือ กระบวน การส่งข่าวสารข้อมูลจากผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสารมีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาโดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งต้องการ
- ความสำคัญของการสื่อสาร คือ ทำให้เกิดความเข้าใจตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย , ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น , ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
2.การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
ตอบ - เพื่อแจ้งให้ทราบ
หมายถึงการสื่อสารที่ผู้ส่งสารจะแจ้งหรือบอกกล่าวข่าวสาร ข้อมูล เหตุการณ์
ความคิด ความต้องการของตนให้ผู้รับได้ทราบ
- เพื่อสร้างความพอใจ หมายถึงการสื่อสารที่มุ่งให้เกิดผลทางจิตใจหรืออารมณ์ความรู้สึกแก่ผู้รับสาร
ซึ่งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้ส่งสารมีข้อมูลที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้รับสาร
และมีกลวิธีในการนำเสนอเป็นที่พอใจ
3.รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง
ควรเป็นรูปแบบใด
จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ
รูปแบบของการสื่อสารข้อมูล จำแนกได้ 2 แบบ
1. การสื่อสารแบบทางเดียว (One-way Communication)
2. การสื่อสารแบบสองทาง (Two-way Communication)
2. การสื่อสารแบบสองทาง (Two-way Communication)
การสื่อสารทางเดียว หมายถึง การสื่อสารที่ผู้รับไม่สามารถโต้ตอบกับผู้ส่งในสื่อกลางเดียวกันได้ ผู้ส่งเป็นฝ่ายส่งข่าวสารเพียงอย่างเดียว ส่วน ใหญ่มักอยู่ในรูปของสื่อสารสาธารณะ เช่น วิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ หรือบอร์ด ประกาศ เป็นต้น การสื่อสารรูปแบบนี้เรียกว่า Simplex
การสื่อสารสองทาง หมายถึง การสื่อสารที่ผู้ส่งและผู้รับข่าวสาร สามารถโต้ตอบกันได้ในสื่อกลางเดียวกัน การสื่อสารรูปแบบนี้ เรียกกว่า Duplex การสื่อสารแบบสองทางนี้ จำแนกตามลักษณะกรรับ/ส่ง
4.ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
ตอบ •
เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก
•เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์
•มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
•เรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติ
•เรียนรู้ได้ดีในบรรยากาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด
•ควรได้รับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้นตอน
•เรียนรู้ได้ดีจากสื่อและอุปกรณ์ที่หลากหลาย
5.ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง
เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก
ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง
ตอบ ปัจจัยที่มีผลต่อการแสดงออกทางพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง
1.ความพร้อม คือสภาพความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจที่จะเรียนรู้ โดยเตรียมความพร้อมในเรื่องดังนี้ พื้นฐานประสบการณ์เดิม สร้างความสนใจเห็นเห็นถึงความสำคัญของความรู้ ส่งเสริมความเชื่อมั่นในการเรียนรู้
2. ความต้องการ คือความต้องการให้ชีวิตดำเนินไปอย่างมีความสุข เช่น ต้องการให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรง มีการศึกษาที่ดี
3. อารมณ์และการปรับตัว คือ แนวโน้มที่จะปฏิบัติต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มี 2 ประเภทคือ อารมณ์ทางบวก เช่น ดีใจ พอใจ ฯลฯ อารมณ์ทางลบ เช่น โกรธ เสียใจ หงุดหงิด ซึ่งอารมณ์ทั้ง 2 นี้มีผลต่อการเรียนรู้ ดังนั้นควรปรับอารมณ์ให้เกิดความสมดุลพร้อมที่จะเรียนรู้
4. การจูงใจ หมายถึง การกระตุ้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ เช่น ต้องการรู้เพื่อแก้ปัญหาลูกหลาน ต้องการรู้เพื่อพัฒนาลูก ต้องการรู้เพื่อให้ลูกเป็นคนดี
5. การเสริมแรง คือ การสร้างความพึงพอใจหลังการเรียนรู้ให้แก่ผู้ปกครอง เช่น คำชมเชย รางวัล ฯลฯ
6. ทัศนคติและความสนใจ คือ การที่บุคคลมีการตอบสนองและแสดงความรู้สึกต่อสิ่งเร้าต่างๆ เช่น
7. ความถนัด คือ ความสามารถของบุคคลในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเมินตนเอง
- ตั้งใจฟังอาจารย์
- ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมเป็นอย่างดี
ประเมินเพื่อน
- เพื่อนๆทุกคนให้ความร่วมมือกับกิจกรรมเป็นอย่างดี
ประเมินอาจารย์
- แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
- มีน้ำเสียงที่น่าฟัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น